<p>ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการเงินการธนาคารนั้นได้มีการพัฒนาและปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดจากการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ที่มีปริมาณมากขึ้น หลากหลายขึ้น และซับซ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนธนาคารและสถาบันทางการเงินต่างๆ เริ่มจะมีการปรับตัวในการทำธุรกรรมในรูปแบบใหม่ๆ หรือการให้บริการทางการเงินบนโลกออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดผ่านการนำเทคโนโลยีมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Machine Learning การนำ AI มาช่วยในบริการต่างๆ การอ่านข้อมูลผ่านภาพถ่าย (OCR) หรือเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยเฉพาะในปี 2564 ที่เราได้เห็นธนาคารและสถาบันการเงินก่อตั้งบริษัทและธุรกิจใหม่ๆ กับคำว่าบล็อกเชนมาไม่เว้นแต่ละเดือน &nbsp;</p><h3>บล็อกเชน คืออะไร</h3><p>บล็อกเชน (Blockchain) คือ ระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชีเกี่ยวกับธุรกรรมออนไลน์ ที่รักษาการเก็บและบันทึกข้อมูลในรูปแบบ “ฐานข้อมูล” แล้วแชร์ไปเก็บในระบบเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงถึงกัน โดยสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ด้วยการเข้ารหัสและการพิสูจน์ Digital Signature (ลายเซ็นดิจิทัล) ข้อมูลใหม่ๆ จะถูกเก็บโดยการสร้าง “บล็อก” ใหม่ และบล็อกนั้นจะไปอยู่ในตำแหน่งที่ต่อจากบล็อกล่าสุด จึงได้ชื่อว่า Blockchain นั่นเอง &nbsp;</p><p>Blockchain ไม่เพียงแค่ใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมต่างๆ อย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน ในประเทศไทย บล็อกเชนถูกนำไปใช้ในหลายๆ อุตสาหกรรมบ้างแล้ว อาทิ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่วงการอีสปอร์ต &nbsp;</p><h3>บล็อกเชน (Blockchain) สำคัญอย่างไร &nbsp;</h3><p>การทำธุรกรรมออนไลน์ต้องอาศัยความเชื่อมั่น ทำให้มี “คนกลาง” ที่น่าเชื่อถือเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของข้อมูล แต่ Blockchain &nbsp;เป็นเทคโนโลยีที่ให้ความปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่านคนกลางอีกต่อไป จึงถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการเก็บข้อมูล &nbsp;</p><p>Blockchain สร้างขึ้นมาเพื่อตัดระบบตัวกลางที่เคยทำหน้าที่เป็นพยานยืนยันการทำธุรกรรม โดย Blockchain จะสร้างระบบมาเก็บข้อมูลที่เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ ซึ่งจะเก็บไว้ทุกขั้นตอนการเคลื่อนไหว และข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้วจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ปรากฏคือความจริงที่ไม่ถูกแก้ไข และไม่สามารถทุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนตนได้ นอกจากนี้ ทุกข้อมูลที่ถูกส่งเข้าไปใน Blockchain จะคงอยู่ตลอด จะไม่สามารถลบหรือแก้ไขข้อมูลได้ &nbsp;และที่สำคัญยังมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้อีกด้วย &nbsp;</p><h3>บทบาทอื่นของ บล็อกเชน &nbsp;&nbsp;</h3><p>ในปัจจุบันอุตสาหกรรมทางการเงินดูเหมือนจะเป็นผู้นำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้มากที่สุด การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ทำให้สามารถตัดคนกลางสำหรับทำธุรกิจต่างๆ ออกไปได้ เชื่อว่าอนาคตบล็อกเชนจะมียอดการใช้งานที่สูงขึ้น จะสามารถนำไปพัฒนาและถูกนำไปประยุกต์ในธุรกิจหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เมื่อตัดตัวกลางออกไปเราสามารถใช้บล็อกเชนในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน การทำธุรกรรมต่างๆ หรือการเอาสัญญาหรือข้อมูลบางอย่างมาเก็บไว้ในบล็อกเชน เพื่อช่วยลดขั้นตอนและกระบวนการบางส่วนที่อาศัยตัวกลาง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบริการทางการเงินต่างๆ &nbsp;ทําให้นอกจากภาคเอกชนแล้ว ทางภาครัฐเองก็อาจจะมีการนําเทคโนโลยี Blockchain &nbsp;มาใช้ในอนาคตบ้านเราคงต้องรอติดตามกันต่อไป&nbsp;</p>

<p>Nowadays, financial and banking technology has been developed and adapted to the digital age more and more. which we can clearly see from online financial transactions with ever-increasing volume, variety and complexity until banks and financial institutions Began to adapt to transactions in new ways. or providing online financial services To meet the needs of customers as much as possible through the use of technology to create new products and services. Whether it's about Machine Learning, using AI to help in various services. Optical image reading (OCR) or blockchain technology, especially in 2021, where we have seen banks and financial institutions forming new companies and businesses. with the word blockchain not coming every month</p><h3><strong>What is blockchain?</strong></h3><p>Online transactions rely on trust, allowing a trusted “middleman” to be involved to ensure the reliability of the data, but Blockchain is a technology that provides security without going through an intermediary anymore. Therefore, it is very important to collect data.</p><p>Blockchain was created to eliminate intermediaries that used to act as witnesses for transactions. which will keep every movement step And the information that has already occurred will not be changed. What appears is the uncorrected truth. and cannot be corrupted for their own benefit. In addition, all data sent into the Blockchain will remain permanent and cannot be deleted or modified. And more importantly, there is transparency and can be checked as well.</p>

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการเงินการธนาคารนั้นได้มีการพัฒนาและปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดจากการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ที่มีปริมาณมากขึ้น หลากหลายขึ้น และซับซ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนธนาคารและสถาบันทางการเงินต่างๆ เริ่มจะมีการปรับตัวในการทำธุรกรรมในรูปแบบใหม่ๆ หรือการให้บริการทางการเงินบนโลกออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดผ่านการนำเทคโนโลยีมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Machine Learning การนำ AI มาช่วยในบริการต่างๆ การอ่านข้อมูลผ่านภาพถ่าย (OCR) หรือเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยเฉพาะในปี 2564 ที่เราได้เห็นธนาคารและสถาบันการเงินก่อตั้งบริษัทและธุรกิจใหม่ๆ กับคำว่าบล็อกเชนมาไม่เว้นแต่ละเดือน 

Nowadays, financial and banking technology has been developed and adapted to the digital age more and more. which we can clearly see from online financial transactions with ever-increasing volume, variety and complexity until banks and financial institutions Began to adapt to transactions in new ways. or providing online financial services To meet the needs of customers as much as possible through the use of technology to create new products and services. Whether it's about Machine Learning, using AI to help in various services. Optical image reading (OCR) or blockchain technology, especially in 2021, where we have seen banks and financial institutions forming new companies and businesses. with the word blockchain not coming every month

Blockchain คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร